เปลี่ยนจอแท้ iPad Pro 12.9" Gen 5 M1 2021

iPad Pro 12.9" Gen 5 M1 เป็นอุปกรณ์ระดับมืออาชีพที่มีความโดดเด่นทั้งด้านประสิทธิภาพและหน้าจอ จอภาพ Liquid Retina XDR ให้การแสดงผลที่ยอดเยี่ยมในด้านความคมชัด ความสว่าง และสีสันที่แม่นยำ จึงเหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ใช้งานสายกราฟิก ตัดต่อวิดีโอ หรืองานที่ต้องการความละเอียดสูง หากหน้าจอเกิดความเสียหาย การเปลี่ยนเป็นจอแท้ถือเป็นทางเลือกที่คุ้มค่าและปลอดภัยที่สุด บทความนี้จะช่วยให้คุณเข้าใจทุกแง่มุมของการเปลี่ยนจอ ตั้งแต่เหตุผล ราคาค่าใช้จ่าย ไปจนถึงขั้นตอนและการเลือกศูนย์บริการที่น่าเชื่อถือ

‍

ทำความรู้จักกับ iPad Pro 12.9" Gen 5 M1

iPad Pro 12.9" Gen 5 เปิดตัวในปี 2021 และเป็น iPad รุ่นแรกที่ใช้ชิป M1 ซึ่งเป็นชิปประมวลผลแบบเดียวกับ MacBook ส่งผลให้มีพลังในการประมวลผลที่แรงมาก รองรับงานกราฟิก 3D ตัดต่อวิดีโอ 4K และการใช้งานระดับโปรอย่างสมบูรณ์
สิ่งที่ทำให้รุ่นนี้แตกต่างคือหน้าจอ Liquid Retina XDR ขนาด 12.9 นิ้ว ความละเอียด 2732x2048 พิกเซล ซึ่งเป็นหน้าจอ mini-LED ที่ให้ความสว่างสูงสุดถึง 1600 nits และคอนทราสต์ระดับ 1,000,000:1 ทำให้การแสดงผลคมชัดและสมจริงกว่า iPad ทุกรุ่นก่อนหน้า

‍

อาการที่บ่งบอกว่าควรเปลี่ยนจอ

หากคุณพบปัญหาต่อไปนี้ แสดงว่า iPad ของคุณอาจต้องเข้ารับการเปลี่ยนจอแท้:

• หน้าจอแตก ร้าว หรือมีรอยกระแทกที่ส่งผลต่อการแสดงผล
• หน้าจอไม่ตอบสนองต่อการสัมผัส (Touchscreen ไม่ทำงาน)
• ภาพแสดงผลผิดปกติ เช่น มีเส้นแนวตั้งหรือแนวนอน เงา จอกระพริบ หรือจอขาว
• หน้าจอเริ่มหลุดจากเฟรมเครื่อง หรือมีแสงลอดจากขอบหน้าจอ
  อาการเหล่านี้อาจเกิดจากการกระแทก ความชื้น หรืออุปกรณ์ภายในชำรุด ซึ่งควรนำเข้าตรวจสอบทันทีเพื่อหลีกเลี่ยงความเสียหายที่ลุกลาม

ความสำคัญของการเลือกใช้จอแท้ (Original Screen)

การเลือกใช้จอแท้ของ Apple ถือเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง โดยเฉพาะกับ iPad Pro รุ่นสูงสุดอย่าง Gen 5 M1 ที่มีจอ mini-LED ซึ่งมีความซับซ้อนกว่ารุ่นก่อนหน้า หากใช้จอเทียมหรือจอเกรด OEM จะพบปัญหา เช่น:

• ความสว่างไม่ถึงมาตรฐานเดิม
• สีผิดเพี้ยน หรือขอบมืด
• การสัมผัสไม่แม่นยำ
• ความล่าช้าในการตอบสนองของหน้าจอ
  การใช้จอแท้ยังคงไว้ซึ่งประสิทธิภาพและรองรับการอัปเดต iPadOS ในอนาคต โดยไม่ทำให้เครื่องทำงานผิดปกติ

‍

ราคาเปลี่ยนจอ iPad Pro 12.9" Gen 5 M1 ปี 2025

ราคาค่าเปลี่ยนจอแท้ในปี 2025 อาจแตกต่างกันตามประเภทของศูนย์ซ่อม:

• Apple Authorized Service Provider (AASP): ราคาจะอยู่ประมาณ 22,000 - 26,000 บาท โดยรวมค่าอะไหล่และค่าแรง
• ร้านซ่อมนอกทั่วไปที่ใช้จอแท้: ราคาจะอยู่ในช่วง 15,000 - 19,000 บาท ขึ้นอยู่กับคุณภาพของชิ้นส่วนและประสบการณ์ของช่าง
• ร้านที่ใช้จอเทียม/จอ OEM: ราคาถูกลงเหลือเพียง 8,000 - 12,000 บาท แต่คุณภาพต่ำและไม่มีประกันที่แน่นอน

หมายเหตุ: ราคานี้อาจมีการเปลี่ยนแปลงขึ้นอยู่กับอัตราแลกเปลี่ยน ค่าแรง และภาษีนำเข้าในช่วงเวลานั้น

ขั้นตอนการเปลี่ยนจออย่างละเอียด

การเปลี่ยนหน้าจอ iPad Pro 12.9" Gen 5 M1 ต้องทำอย่างละเอียดและรอบคอบ เพราะมีความซับซ้อนสูงและอุปกรณ์ภายในมีความบอบบางมาก โดยทั่วไปจะมีขั้นตอนดังนี้

1. ตรวจสอบเครื่องก่อนซ่อม: ทำการทดสอบระบบต่างๆ ของ iPad เช่น การสัมผัส หน้าจอ กล้อง และลำโพง เพื่อเช็คว่าไม่มีปัญหาอื่นนอกจากหน้าจอ
2. ปิดเครื่องและเตรียมเครื่องมือ: ถอดซิมการ์ด ปิดเครื่อง และเตรียมพื้นที่ทำงานที่ปลอดฝุ่น พร้อมเครื่องมือกันไฟฟ้าสถิต (ESD)
3. เปิดหน้าจอด้วยเครื่องเป่าลมร้อน: ใช้ความร้อนเฉพาะจุดบริเวณขอบจอเพื่อละลายกาว จากนั้นใช้ตัวดูดสุญญากาศและเครื่องมือเปิดจออย่างระมัดระวัง
4. ถอดสายเชื่อมต่อหน้าจอ (Flex cable) : ต้องถอดแบตเตอรี่ก่อน แล้วจึงถอดสายหน้าจอออกจากบอร์ด
5. ติดตั้งหน้าจอใหม่: วางจอแท้ใหม่อย่างแม่นยำและต่อสายให้แน่นหนา
6. ทดสอบการทำงาน: เปิดเครื่องและทดสอบจอใหม่ทั้งหมด เช่น ความสว่าง สี การสัมผัส และ Face ID
7. ปิดฝาและปิดผนึกด้วยกาวใหม่: ใช้กาวคุณภาพสูงเพื่อให้หน้าจอยึดแน่นเหมือนจากโรงงาน

เครื่องมือที่ใช้ในการเปลี่ยนหน้าจอ

การเปลี่ยนหน้าจอ iPad Pro ไม่สามารถใช้เครื่องมือทั่วไปได้ ต้องใช้เครื่องมือเฉพาะดังนี้:

• ไขควง Pentalobe และ Tri-point: สำหรับไขน็อตภายใน iPad ที่มีลักษณะพิเศษ
• เครื่องเป่าลมร้อน หรือแผ่นทำความร้อน (Heat Pad): ใช้ในการคลายกาวรอบหน้าจอโดยไม่ทำให้ชิ้นส่วนภายในเสียหาย
• ตัวดูดจอสุญญากาศ (LCD Suction Tool): ใช้ยกหน้าจอขึ้นโดยไม่ทำให้กระจกแตกเพิ่ม
• แหนบกันไฟฟ้าสถิต (Anti-Static Tweezers): ป้องกันความเสียหายจากไฟฟ้าสถิตในระหว่างถอดประกอบชิ้นส่วน
• แผ่นรองแม่เหล็ก: สำหรับวางน็อตแต่ละชิ้นให้ไม่หล่นหรือสลับตำแหน่ง

ข้อควรระวังระหว่างการเปลี่ยนจอ

การซ่อม iPad มีความเสี่ยงสูง ดังนั้นต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ

• ปลดแบตเตอรี่ก่อน: เพื่อป้องกันไฟฟ้าลัดวงจรที่อาจทำให้บอร์ดเสียหาย
• หลีกเลี่ยงแรงดึงสาย Flex: สายเชื่อมต่อมีความบางและขาดง่าย หากดึงผิดวิธีอาจต้องเปลี่ยนบอร์ดย่อย
• ระวังคลิปล็อกจอ: มีคลิปที่ล็อกหน้าจอไว้ หากงัดผิดอาจหักหรืองอ ทำให้จอไม่แนบสนิทหลังประกอบ
• ใช้กาวคุณภาพสูง: การใช้กาวราคาถูกอาจทำให้จอหลุดหรือมีแสงลอด

ระยะเวลาในการเปลี่ยนจอ iPad Pro 12.9 Gen 5 M1

ระยะเวลาในการซ่อมจอจะขึ้นอยู่กับความเชี่ยวชาญของช่างและอุปกรณ์ที่ใช้:

• ศูนย์บริการ Apple หรือ AASP: โดยปกติต้องนัดหมายล่วงหน้า และใช้เวลา 3 - 7 วันทำการ
• ร้านซ่อมนอกที่เชี่ยวชาญ: ใช้เวลาเพียง 2 - 4 ชั่วโมง หากมีอะไหล่พร้อม
• กรณีต้องสั่งอะไหล่: อาจใช้เวลารวม 1 - 3 วัน
• การทดสอบหลังเปลี่ยน: ควรมีการทดสอบระบบทั้งหมดก่อนส่งมอบ ซึ่งใช้เวลาประมาณ 30 นาที

การรับประกันหลังการเปลี่ยนจอ

เรื่องการรับประกันถือเป็นปัจจัยสำคัญในการเลือกเปลี่ยนจอ:

• ศูนย์ Apple: ให้การรับประกันอะไหล่และการซ่อม 90 วัน หรือจนกว่าระยะประกันหลักจะหมด (แล้วแต่อย่างใดจะนานกว่า)
• ร้านซ่อมนอก: ส่วนใหญ่ให้รับประกันตั้งแต่ 3 - 6 เดือน บางร้านอาจให้ 1 ปี ขึ้นอยู่กับคุณภาพจอและนโยบายของร้าน
• ข้อจำกัดในการรับประกัน: ไม่ครอบคลุมความเสียหายจากการตกหล่น น้ำเข้า หรือความเสียหายทางกายภาพหลังจากการซ่อม
• ควรขอใบเสร็จ/ใบรับประกัน: เพื่อใช้ในกรณีเคลม หรือสอบถามปัญหาในภายหลัง

ความเสี่ยงจากการซ่อมเอง (DIY)

แม้ใน YouTube หรือเว็บไซต์ต่างประเทศจะมีคลิปแนะนำการเปลี่ยนจอ iPad ด้วยตนเอง แต่สำหรับรุ่น iPad Pro 12.9" Gen 5 M1 ถือว่ามีความเสี่ยงสูงมาก โดยเฉพาะหากไม่มีประสบการณ์หรือเครื่องมือที่เหมาะสม

• ความเสี่ยงของการงัดหน้าจอผิดวิธี: อาจทำให้หน้าจอเสียหายเพิ่มเติมหรือสาย Flex ภายในขาด
• อาจทำให้บอร์ดเสียหาย: ถ้าไม่ได้ถอดแบตเตอรี่ก่อนหรือใช้เครื่องมือผิด อาจทำให้ Logic Board ลัดวงจรได้
• อุปกรณ์เฉพาะทางมีราคาสูง: เช่น แผ่นให้ความร้อน เครื่องมือกันไฟฟ้าสถิต ซึ่งไม่คุ้มค่าสำหรับใช้งานครั้งเดียว
• หมดสิทธิ์รับประกันจาก Apple: หากตรวจพบว่าเครื่องถูกเปิดหรือซ่อมจากภายนอก Apple จะปฏิเสธการรับประกันทุกกรณี
• ความเสี่ยงจากจอที่ซื้อมาผิดรุ่น: iPad Gen 5 ใช้หน้าจอ mini-LED เฉพาะเจาะจง การสั่งจอผิดอาจทำให้ใส่ไม่ได้หรือจอไม่ติด

คำแนะนำ: เว้นแต่คุณจะเป็นช่างเทคนิคที่มีประสบการณ์สูง ไม่ควรเปลี่ยนจอเองโดยเด็ดขาด

‍

เปรียบเทียบระหว่างเปลี่ยนจอที่ศูนย์ Apple และร้านนอก

หากคุณต้องการความมั่นใจสูงสุดและยังอยู่ในประกัน ควรเลือกศูนย์ Apple แต่ถ้าต้องการประหยัดและสามารถรอได้ไม่นาน ร้านซ่อมนอกที่เชื่อถือได้ก็เป็นทางเลือกที่ดีเช่นกัน

คำแนะนำในการเลือกศูนย์บริการที่เชื่อถือได้

เนื่องจากร้านซ่อมมีจำนวนมาก ควรพิจารณาปัจจัยเหล่านี้ในการเลือกใช้บริการ:

• มีใบอนุญาตหรือเป็นร้านที่จดทะเบียนถูกต้อง เพื่อความปลอดภัยและสามารถติดตามได้
• รีวิวจากลูกค้าเดิม: ควรเช็คจาก Google Maps, Facebook หรือ Pantip
• ใช้จอแท้จริงหรือไม่: ร้านควรสามารถยืนยันแหล่งที่มาของอะไหล่และมีการแสดงให้เห็นก่อนติดตั้ง
• มีการออกใบเสร็จและใบรับประกัน: เพื่อให้คุณมั่นใจว่าในกรณีจอมีปัญหา สามารถเคลมได้จริง
• การบริการหลังการขาย: ตรวจสอบว่าร้านสามารถให้คำปรึกษาหลังการซ่อมหรือไม่ เช่น หากพบปัญหาภายหลัง

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการเปลี่ยนจอ iPad Pro 12.9" Gen 5

Q1: เปลี่ยนเฉพาะกระจกหน้าได้หรือไม่?
A: ได้  ในกรณีที่หน้าจอแตก แต่สีของหน้าจอยังแสดงผล และทัชสกีนได้ปกติ แต่จะทำได้เฉพาะร้านนอก หากเป็นศูนย์บริการจะไม่สามารถทำได้

Q2: ถ้าเปลี่ยนจอ Face ID ยังใช้ได้หรือไม่?
A: หากใช้จอแท้และติดตั้งอย่างถูกต้องโดยไม่เสียหายกับเซ็นเซอร์ TrueDepth ระบบ Face ID จะยังสามารถใช้งานได้ตามปกติ

Q3: เปลี่ยนจอแล้วคุณภาพเหมือนเดิมหรือไม่?
A: ถ้าใช้จอแท้จาก Apple หรือผู้ผลิตระดับ OEM เทียบเท่า คุณภาพการแสดงผลจะเหมือนเดิม แต่ถ้าใช้จอเทียม ความคมชัดและการสัมผัสอาจลดลง

Q4: ซ่อมเสร็จแล้วต้องเคลียร์ระบบไหม?
A: ไม่จำเป็นต้องรีเซ็ตเครื่อง ยกเว้นมีปัญหาเกี่ยวกับซอฟต์แวร์จากการชนหน้าจอที่แรง

Q5: จำเป็นต้องสำรองข้อมูลก่อนซ่อมหรือไม่?
A: แนะนำอย่างยิ่งให้สำรองข้อมูลทั้งหมดก่อนส่งซ่อม เพื่อป้องกันข้อมูลสูญหายจากอุบัติเหตุที่ไม่คาดคิด

‍

 สรุป

การเปลี่ยนจอ iPad Pro 12.9" Gen 5 M1 เป็นงานที่ต้องอาศัยทั้งความเชี่ยวชาญ อุปกรณ์เฉพาะ และความละเอียดในการเลือกใช้ชิ้นส่วนแท้ เพื่อคงประสิทธิภาพสูงสุดของอุปกรณ์ระดับมืออาชีพ หากคุณมีงบประมาณพอ การเข้าศูนย์บริการ Apple เป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด แต่ถ้าเลือกใช้ร้านซ่อมนอก อย่าลืมตรวจสอบความน่าเชื่อถือของร้านอย่างรอบคอบ

คำแนะนำสุดท้าย : ควรเลือกใช้จอแท้เสมอ และให้ช่างที่มีประสบการณ์สูงดำเนินการเปลี่ยน เพื่อป้องกันความเสียหายในระยะยาว และคงคุณภาพ iPad ให้เหมือนใหม่